เรื่องราวดีๆ ในสังคมเรื่องนี้ มาจากเฟซบุ๊ก Kaimook Promsard ที่นำเรื่องราวของเด็กชายวัย 13 ปีคนหนึ่ง ซึ่งทราบชื่อภายหลังคือ น้องอิคคิว ป่วยเป็นโรคไฮเปอร์ มีอาการชักเป็นระยะ แต่สามารถรับรู้ พูดคุยทุกอย่างได้ปกติ แต่อาจจะช้าไปบ้าง

น้องอิคคิว อาศัยอยู่กับยายขาพิการ ป้า และพี่ชายที่เป็นออทิสติกแต่พูดคุยรู้เรื่อง และสื่อสารพอเข้าใจ ทั้งพี่ชายและน้องอิคคิวมีบัตรสวัสดิการของคนพิการ โดยบ้านที่อยู่เป็นบ้านของยาย  ส่วนรายได้ของครอบครัวมาจากยายและป้า โดยยายรับจ้างกรอกขนม ได้ถุงละ 25 บาท วันหนึ่งกรอกได้ประมาณ 2 ถุง ส่วนป้า ขายขนมจีนตามตลาดนัด ยายบอกว่าน้องเป็นคนขยันมาก ไม่เคยร้องขอเงินจากยายเลย ทุนที่ขายของก็หามาด้วยตัวเอง โดยแต่ละวันน้องอิคคิวจะขี่รถจักรยานออกไปขายเฟรนช์ฟรายส์บ้างข้าวเกรียบกุ้งบ้าง ข้าวไข่เจียวบ้าง 

เจ้าของเฟซบุ๊กดังกล่าวยังระบุอีกว่า ก่อนที่น้องอิคคิวจะมาขายของเคยไปสมัครงาน แต่ไม่มีใครรับ เพราะอายุยังน้อย น้องจึงเอาข้าวเกรียบ ไข่ต้ม นักเก็ต เฟรนช์ฟรายส์มาอย่างละถาดเล็กๆ ขายข้างโรงเรียนราษฎร์วิทยา หรือบางวันขายหน้าวัดมหาธาตุ ที่จังหวัดเพชรบุรี เด็กนักเรียนที่ผ่านมา บางคนก็ซื้อ บางคนก็ขำ แต่น้องเก่งมากร้องขายตลอด พอเก็บร้านถามว่าขายดีไหม น้องบอกขายดีมาก ทั้งๆ ที่ขายไม่หมด เลยถามว่าขายได้เท่าไรน้องบอก 180 เยอะมากพี่ ทำสีหน้าดูแล้วดีใจมาก ฟังแล้วน้ำตาตกทั้งสองข้าง เงิน180 บาทคงมากสุดๆ สำหรับน้อง

ล่าสุดน้องอิคคิวโทรศัพท์มาบอกเจ้าของเฟซบุ๊กว่า "วันนี้มีคนรวยมาเหมา ขายหมดเลย คนรวยบอกว่าเห็นในเฟซบุ๊กเลยมาช่วยซื้อ "น้ำเสียงน้องโทรมาแบบดีใจมาก ก่อนวางสายน้องขอร้องมุก น้องพูดว่า "พี่มุก ช่วยผมส่งเฟซส่งไลน์ให้ทั่วๆ เมืองเพชรบุรีเลยนะ บอกเขาด้วยว่าผมขายแค่ 10 บาท 20 บาท ถ้าตังค์ไม่พอผมลดราคาให้ได้พี่บอกให้คนมาช่วยผมชื้อเยอะๆ นะ"

จากเรื่องราวของน้องอิคคิว ที่ตอนนี้เผยแพร่ในโลกออนไลน์ ทำให้ชาวเน็ตต่างชื่นชมในความขยัน อดทน และสู้ชีวิตของน้องอิคคิว แม้ร่างกายจะป่วย แต่หัวใจนั้นใหญ่เกินตัว ที่ผู้ใหญ่หลายคนต้องยอมใจ