"ตักบาตร ขนมครกและน้ำตาลทราย" ประเพณีเก่าแก่ที่สืบทอดกันมาเกือบ 100 ปี

ประเพณี "ตักบาตร ขนมครกและน้ำตาลทราย" ประเพณีเก่าแก่ของชาวสมุทรสงคราม ที่สืบทอดกันมายาวนานเกือบ 100 ปี https://www.boonnews.tv/n26474

573 ผู้เข้าชม
"ตักบาตร ขนมครกและน้ำตาลทราย" ประเพณีเก่าแก่ที่สืบทอดกันมาเกือบ 100 ปี

       จังหวัดสมุทรสงครามเปิดงาน ประเพณีตักบาตร ขนมครกและน้ำตาลทราย เพื่อเป็นการสืบสานประเพณีไทย สมัยพุทธกาลที่สืบทอดมาเกือบ 100 ปี 

       วันนี้ (6 ก.ย.61) เวลา 09.50 น. ที่วัดแก่นจันทน์เจริญ ตำบลบางพรม อำเภอบางคนที จังหวัดสมุทรสงคราม นายยงยุทธ์ สิงห์ธวัช รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงครามเป็นประธานเปิดงานประเพณีตักบาตรขนมครกและน้ำตาลทราย 

       ในงานมีประชาชนเป็นจำนวนมากเข้าร่วมกิจกรรม  ซึ่งองค์การบริหารส่วนจังหวัดร่วมกับองค์การบริหารส่วนตำบลบางพรมและวัดแก่นจันทน์เจริญ จัดขึ้นทุกวันขึ้น 8 ค่ำเดือน 10 ทุกปี เพื่อเป็นการสืบสานประเพณีไทยสมัยพุทธกาลที่สืบทอดมาเกือบ 100 ปีซึ่งเหลือเพียงแห่งเดียวในจังหวัดสมุทรสงคราม 

      ในงานมีชาวบ้านทยอยกันออกมาช่วยกันโม่แป้ง ขุดมะพร้าว คั้นกะทิ เพื่อทำขนมครกสูตรโบราณ ซึ่งมีเพียงแป้งข้าวเจ้า กะทิจากมะพร้าว เกลือป่น และต้นหอมหั่นชิ้นเล็กๆโรยหน้าเพื่อเพิ่มความหอมของขนมครก  โดยมีนักท่องเที่ยวร่วมกันหยอดและแคะขนมครกจากเตาเป็นจำนวนมาก 

"ตักบาตร ขนมครกและน้ำตาลทราย" ประเพณีเก่าแก่ที่สืบทอดกันมาเกือบ 100 ปี

      ทั้งนี้ ขนมครกและน้ำตาลทรายจำนวนมากที่ได้จากการทำบุญตักบาตรของชาวบ้าน ที่เหลือจากพระฉันแล้ว ส่วนหนึ่งทางวัดจะแจกจ่ายให้ชาวบ้านที่มาร่วมบุญนำกลับบ้านแจกลูกหลานกิน และอีกส่วนหนึ่งก็นำไปถวายวัดใกล้เคียง ขณะที่เงินที่ได้จากการขายขนมครกชาวบ้านก็จะถวายให้กับทางวัดเพื่อนำไปพัฒนาวัดต่อไป 

       ส่วนความเป็นมาประเพณีทำบุญตักบาตรขนมครก ตามพุทธประวัติมีที่มาจากหลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าในธรรมบทภาคที่ 2 เรื่อง “โกสิยะเศรษฐีผู้มีความตระหนี่ถี่เหนียว”โดยมีใจความโดยสรุปว่า พระองค์ต้องการสั่งสอนเศรษฐีคนหนึ่งที่มีนิสัยตระหนี่ถี่เหนียวแม้ว่าฐานะทางครอบครัวจะร่ำรวยก็ตาม เช่นวันหนึ่งเศรษฐีเห็นยาจกคนหนึ่งกำลังกินขนมครกจึงเกิดความอยากจะกินบ้าง แต่ด้วยความที่เป็นคนตระหนี่ถี่เหนียวจึงยอมอดกลั้นความอยากกินนั้นไว้ เพราะเกรงว่าการซื้อหรือทำขนมกินจะเป็นการสิ้นเปลืองเงินทอง ครั้นเมื่อภรรยาทราบว่าสามีอยากกินขนมครกจึงแอบทำขนมครกโดยไม่ให้ใครรู้เพื่อจะได้ให้สามีกินเพียงคนเดียว ต่อมาเมื่อพระพุทธเจ้าทราบเรื่อง จึงตรัสให้พระโมคคัลลานะ เดินทางไปอบรมสั่งสอนเศรษฐีผู้นี้ด้วยการแสดงพระธรรมของพระรัตนตรัยทั้งสามพร้อมแสดงผลทาน ซึ่งเมื่อเศรษฐีได้ฟังก็มีจิตเลื่อมใสขึ้นมาทันที และตั้งแต่บัดนั้นเศรษฐีคนนี้ก็เปลี่ยนนิสัยกลายเป็นคนที่เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อทุกคน และมั่นทำบุญให้ทานเป็นกิจวัตร


ขอบคุณข้อมูลข่าวและที่มา  :   สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสมุทรสงคราม 

"ตักบาตร ขนมครกและน้ำตาลทราย" ประเพณีเก่าแก่ที่สืบทอดกันมาเกือบ 100 ปี
"ตักบาตร ขนมครกและน้ำตาลทราย" ประเพณีเก่าแก่ที่สืบทอดกันมาเกือบ 100 ปี
แชร์