เรื่องราวชีวิตย่อ ๆ ของ Mr. What

Mr. What เป็นลูกคนเดียวของครอบครัว เขาถูกจับติดคุกยาวนานถึง 22 ปี ด้วยข้อหาปล้นและทำร้ายเจ้าทรัพย์ด้วยอาวุธร้ายแรง แต่ผลตรวจสอบกลับพบว่าเขาบริสุทธิ์

เมื่อเขาออกจากคุก เขาไม่มีบ้าน ไม่มีเงิน ไม่มีงานทำ บังเอิญเขาได้พบกับนายตำรวจท่านหนึ่ง เขาได้ใช้เครดิตนายตำรวจท่านนี้เพื่อเช่าบ้านโดยติดค่าเช่าบ้าน และได้ทำข้อตกลงกับเจ้าของบ้านคือหญิงเลี้ยงเดี่ยวลูกติด 2 คน ซึ่งเธอก็ส่งลูกชายคนโตมาสอดแนมตลอด และเขากลายเป็นเพื่อนซี้ของเด็กชายคราวหลานคนนี้

หลังจากหาที่พักได้ เขาก็รีบกลับไปเยี่ยมคุณพ่อของเขา แต่เขาต้องเสียใจมากที่พ่อของเขาเป็นอัลไซเมอร์จำเขาไม่ได้ อีกทั้งคุณแม่ของเขาก็เพิ่งจะเสียชีวิตไป 2 ปี ก่อนที่เขาจะออกจากคุก คนที่ดูแลคุณพ่อของเขาก็แจ้งว่าควรส่งคุณพ่อไปดูแลในสถานพยาบาลเพื่อไม่ให้คุณพ่อแย่ไปกว่านี้

เขาได้แต่ร้องไห้และอ้อนวอนขอให้พระเจ้าช่วยเขา หนักกว่านั้นขณะที่พักอยู่ที่บ้านเช่าก็มีเรื่องต่างๆ ที่ทำให้เขาแทบกลั้นใจไม่อยู่ เรียกได้ว่าทำอะไรก็ผิดหมด เช่น เด็กเกเรรุมซ้อมลูกชายของเจ้าของบ้าน เขาเข้าไปช่วย กลับโดนพ่อแม่ของเด็กเกเรโทรไปแจ้งเจ้าของบ้านเช่าว่าเขาข่มขู่เด็กด้วยไม้กวาดบ้าง  หรือมีคนแจ้งตำรวจว่าเขาจะฆ่าคนด้วยขวานบ้าง เป็นต้น

ต่อมาเขาไปเยี่ยมคุณพ่อของเขาที่สถานพยาบาล พ่อของเขาจำเขาได้แต่ก็เป็นวันที่คุณพ่อของเขาจากเขาไป หลังจากนั้นเขาได้ไปขึ้นศาล และศาลได้ตัดสินคดีเขาใหม่ว่าเขาเป็นผู้บริสุทธิ์ โดยเขาได้รับเงิน 2.3 ล้านดอลล่าร์ เป็นการชดเชยค่าเสียหายทั้งหมดที่ผ่านมา

เขาผู้ไม่มีอะไรเลย แต่ยามที่เขาตกต่ำและลำบากที่สุด เขามีเพื่อนแท้อยู่ 6 คน รวมเด็กอีก 2 คน ที่ไปร่วมงานศพคุณพ่อของเขา และเขาได้ตอบแทนเขาเหล่านั้นดังนี้

1.  เพื่อนในคุก เขาส่งเสว็ตเตอร์ให้เขาพร้อมกับหนังสือเล่มโตให้เขาศึกษาเกี่ยวกับรถยนต์ และเสนองานให้เขาเมื่อเขาออกจากคุก

2.  บาทหลวงผู้ประกอบพิธีงานศพและลอยอังคารให้คุณพ่อของเขา เขามอบแคชเชียร์เช็ค 200,000 เหรียญ ซึ่งช่วยโบสถ์ทันพอดี

3.  คนดูแลคุณพ่อของเขา เขามอบแคชเชียร์เช็คให้เธอ 250,000 ดอลล่าร์

4.  ครอบครัวแม่เลี้ยงเดี่ยวพร้อมลูกชายและลูกสาว 150,000 ดอลล่าร์เพื่อการศึกษาของเด็ก ๆ

ที่สำคัญ คือสุนัขที่ช่วยชีวิตของเขาจากขวาน เขาได้นำมันไปอยู่กับเขาด้วย

หนังเรื่องนี้ดูแล้ว น่าเห็นใจ Mr. What มาก เขาโดนกลั่นแกล้งและกล่าวหาในทุกรูปแบบ หลีกเลี่ยงก็แล้วจนไม่รู้จะทำอย่างไรดี เขาตัวคนเดียวจริง ๆ เหลือญาติคนเดียวคือคุณพ่อก็มาเป็นอัลไซเมอร์ ไม่มีญาติพี่น้องที่พอจะช่วยให้ผ่อนคลายบ้าง ลูกผู้ชายที่มีแต่น้ำตาเป็นเพื่อน แต่ด้วยความอดทน คิดดี และคิดสู้ มีจิตใจที่มีศรัทธาเชื่อมั่น มีความหวัง และความรัก ที่เขาคิดว่าเขาจะชนะแน่นอน และเขาก็ชนะจริง ๆ แม้ต้องใช้เวลายาวนานกว่า 22 ปี

พร้อมกันนี้ได้แนบวิดิโอหนังเรื่องนี้มาให้ด้วยแล้ว

Thanks& regards : EncourageTV