ศาสตร์แห่งสมาธิ
สมาธินับเป็นศาสตร์ เป็นความรู้แขวงหนึ่ง ที่กล่าวได้ว่าเกินกว่าวิทยาศาสตร์จะตามทัน https://www.boonnews.tv/v27126
สมาธิคืออะไร?
สมาธิ คือ อาการที่ใจหยุดนิ่ง ตั้งมั่นอยู่ในอารมณ์เดียว ใจสงบรวมเป็นหนึ่ง แล้วมีความบริสุทธิ์ผ่องใสผุดขึ้นในใจ
ความแตกต่างของสมาธิในพระพุทธศาสนา กับ สมาธินอกพระพุทธศาสนา
สมาธิในพระพุทธศาสนา : วางใจไว้ในตัว ที่ศูนย์กลางกายฐานที่ 7
สมาธินอกพระพุทธศาสนา : วางใจไว้นอกตัว เช่น ฤาษีบูชาไฟ ก็จะวางใจไว้ที่กองไฟ
ตัวอย่าง เช่น เตโชกสินในพระพุทธศาสนา ใช้ไฟเป็นนิมิตเหมือนกัน แต่นำภาพไฟหรือแสงสว่างนั้นมาไว้ที่ในตัว ไม่ได้วางไว้นอกตัวเหมือนฤาษี กสินประเภทอื่น ๆ ก็ในทำนองเดียวกัน
ทั้งหมดทั้งมวลก็เพื่อให้ใจมีที่เกาะ แทนที่ไปคิดโน่นคิดนี่ มันต้องมีนิมิตคือเครื่องหมายทางใจให้ใจเรายึดเกาะก่อน
สมอง กับ ใจ เป็นคนละส่วนกัน
สมอง เป็นส่วนหนึ่งของร่างกาย ทำหน้าที่คล้ายคอมพิวเตอร์ (computer)
ใจ เป็นส่วนหนึ่งของจิตใจ ทำหน้าที่คล้ายผู้ใช้คอมพิวเตอร์ (user)
ระดับของปัญญามี 3 ระดับ
1. รู้จำ เป็นปัญญาที่เกิดจากการฟัง และ/หรือ การอ่าน = สุตมยปัญญา
2. รู้คิด เป็นปัญญาที่เกิดจากการขบคิด และ/หรือ การค้นคว้า = จินตมยปัญญา
3. รู้แจ้ง เป็นปัญญาที่เกิดจากการทำสมาธิภาวนา = ภาวนามยปัญญา เป็นการรู้เห็นสิ่งต่าง ๆ ถูกต้องตามความเป็นจริง ไม่ได้ใช้ความคิด
ระดับของการทำสมาธิภาวนา
1. สมถกรรมฐาน คือ การทำสมาธิ ให้ใจหยุดนิ่ง ตั้งมั่น (เทียบเท่าระดับรู้คิด จิตนมยปัญญา คือ รู้จักนึกคิดได้)
2. วิปัสสนากรรมฐาน คือ การใช้ญาณทัสนะที่เกิดขึ้นจากการทำสมาธิ เห็นสิ่งต่าง ๆ ตามความเป็นจริง เช่น เห็น อริยสัจ 4, ขันธ์ 5, อายตนะ12, นรก-สวรรค์, ฯลฯ (เทียบเท่ากับระดับรู้แจ้ง ภาวนามยปัญญา คือ รู้แล้วและทำได้)
ประโยชน์ของสมาธิ
1. ทำให้เราใช้ศักยภาพของตนเองได้เต็มที่ เหมือนเลนส์รวมแสงอาทิตย์
ยิ่งรวมแสงเป็นจุดเล็กเท่าไหร่ พลังงานจะยิ่งเป็นทวีคูณ ใจเราเหมือนกัน ยิ่งใจนิ่งมากเท่าไหร่ อานุภาพของใจจะยิ่งทวีคูณ ความสว่างจะยิ่งเกิดขึ้นมากเท่านั้น และเป็นความสว่างที่เย็น ไม่แสบตา ไม่จ้าตา ขอบเขตการเห็นยิ่งกว้างขวางขึ้นเรื่อย ๆ
2. ทำให้สุขภาพดีทั้งกายและใจ
สภาวะต่าง ๆ ของร่างกายและจิตใจมีความสมดุล ใจดีกายก็ดี กายดีใจก็ดีเช่นกัน กายและใจส่งผลเนื่องถึงกันชัดเจน
3. ทำให้เกิดความรู้แจ้ง (ภาวนามยปัญญา)
เห็นโลกและชีวิตตามความเป็นจริง
ผลลัพธ์ของผู้ที่นั่งสมาธิอย่างต่อเนื่อง
1. มีสติรู้ตัวอยู่เสมอ ทำให้จิตใจสดชื่น แจ่มใส
2. ทำให้ใจนิ่ง ขจัดความขัดแย้งในใจ ท่ามกลางความสับสนวุ่นวายจะตัดสินใจได้ดีขึ้น รู้ว่าควรทำอย่างไรต่อไป
3. ยอมรับและเข้าใจทุกสถานการณ์ และรับมือด้วยความสงบ ทำให้มีความสุขมากขึ้น
4. ช่วยควบคุมด้านอารมณ์ และความจำดีขึ้น ยืนยันจากการทดสอบโดยแพทย์เรื่องระบบลิมปิคในสมอง
5. ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันโรคได้ดีขึ้น รวมทั้งโรคร้ายแรงเรื้อรัง เช่น เอดส์ มะเร็ง โรคหัวใจ ฯลฯ
6. ทำให้ผิวใสขึ้นถึง 4 เท่า
7. แก้เครียดลดความกดดัน โดยไม่ต้องพึ่งยา
8. บุคลิกสง่างามขึ้น ดูมีอำนาจมากขึ้น
9. รู้ตัวเองมากขึ้น และรู้ว่าควรแก้ไขข้อบกพร่องของตัวเองอย่างไร
10. ทำให้ดูดีดูฉลาดทันคน เพิ่มพูนความคิด และสติปัญญา
วิธีทำสมาธิ
คลิปเต็ม โดยพระมหา ดร. สมชาย ฐานวุฒโฑ
ความอัศจรรย์ต่าง ๆ จากการรู้แจ้งของพระพุทธเจ้า ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเวียนว่ายตายเกิดในวัฎสงสาร การเชื่อเรื่องกฏแห่งกรรม การได้รับการยอมรับจากการพิสูจน์โดยวิทยาศาสตร์สมัยใหม่ โดยเฉพาะไอน์สไตน์ได้ยกย่องว่า ศาสนาพุทธ คือ ศาสนาแห่งสากลจักรวาล พระพุทธเจ้าทรงทราบเรื่องของจักรวาล เอกภพ ภพ 3 ก็ด้วยญาณทัสนะจากสมาธิ
เราภูมิใจในคำสอนของพระพุทธเจ้าหรือยัง? เราได้ศึกษาจนตระหนักถึงคำสอนของพระพุทธเจ้าว่าสุดยอดเยี่ยมยอดจริง ๆ อย่างที่ไอน์สไตน์รู้สึกและเห็นอย่างนั้นแล้วหรือยัง?
ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ: phrasombat summapalo