คำว่า “ช่างมันเถอะ” เป็นคำพูดยอดนิยม แต่เราทำใจได้จริงหรือ มีบทบัญญัติ 10 ประการ แห่งความขัดแย้ง เพื่อทำให้เราทำใจให้ได้ และมีพลังที่จะสู้ต่อไป ดังนี้
1. คนเรามักเอาตัวเองเป็นที่ตั้ง เราจึงไม่รู้หรอกว่าเขาผ่านอะไรมา ให้เรารยอมรับความไม่แน่นอน สิ่งที่เราคิดไม่ถึง สงสารเขาด้วยความรัก เพราะเขาอาจจะเจอปัญหาใหญ่หรือเกิดเหตุการณ์ร้าย ๆ มา เช่น โดนเจ้านายด่ามา ทะเลาะกับแฟนมา ไม่มีเงินใช้ หรือเพิ่งจะตกงาน หรือเพิ่งจะโดนปาดหน้ามา หรือปัญหาอะไรก็แล้วแต่ที่เขาอาจแสดงออกอย่างไร้เหตุผลกับเรา ไม่ต้องเข้าใจหรอก ช่างมันเถอะ อย่าถือสา
2. ต่อให้โดนด่า โดนนินทา ว่าสร้างภาพ ก็ช่างมันเถอะ เพราะอย่างไรก็ตามเราก็ต้องทำอยู่ดี เพราะสิ่งที่เราทำเราได้พิจารณาอย่างดีแล้วว่ามีประโยชน์ คิดจะทำก็ห้ามท้อ
3. ช่วงที่เรากำลังจะประสบความสำเร็จ จะมีคนกรอกใส่หูเราว่า “คุณจะได้เพื่อนจอมปลอมและศัตรูที่แท้จริง” ให้เรารีบทำให้สำเร็จ อย่ากลัวว่าจะยิ่งสูงยิ่งหนาว จะโดนโดดเดี่ยว จะมีแต่เพื่อนจอมปลอมที่จะเกาะเราเวลาเราสำเร็จเพื่อหวังผลประโยชน์อะไรบางอย่าง หรือต้องเจอศัตรูที่อาจทำให้เราแย่ลงในทุกด้าน ก็ให้ช่างมันเถอะ ทำตามเป้าหมายให้สำเร็จไปก่อน ให้ถึงจุดสำเร็จนั้นก่อนแล้วใช้สติพิจารณา
4. เรามักได้ยินคำว่า “ทำดีวันนี้ พรุ่งนี้ใครๆ ก็ลืมกันหมดแล้ว” ก็ช่างมันเถอะ หรือเราทำงานอย่างหนัก ไม่ว่าเป็นหน้าที่การงานทั่วไปหรือการฝึกฝนสิ่งใด แม้ไม่มีใครเห็น ไม่มีใครรู้ หรือไม่เข้าใจ ก็ช่างมันเถอะ เพราะเราทำด้วยใจบริสุทธิ์ ทำโดยไม่หวังผล ให้คิดว่าเราได้ทำดีแล้ว อย่างไรก็ตาม ความดีก็เป็นสิ่งที่น่าจดจำอยู่วันยังค่ำ เพราะทำให้เรามีความสุข มันจะเป็นความทรงจำที่แสนดีทำให้ชีวิตเรามีคุณค่า
5. ความซื่อตรงเกินไปบ่อยครั้งก็ทำร้ายตัวเราเองแต่ก็ช่างมันเถอะ แม้จะถูกตีตราว่าซื่อจนเซ่อ แต่เพราะเราหวังดีจริงใจและปรารถนาดีเกินไป ตรงเกินไปอาจไปทำร้ายจิตใจผู้อื่นบ้าง ก็ช่างมันเถอะ เราจะยังคงความซื่อสัตย์และตรงไปตรงมาถ้าจะช่วยให้คนรอบข้างดีขึ้น
6. มีตัวอย่างให้เห็นอยู่ว่า ผู้ยิ่งใหญ่อาจถูกทำลายด้วยคนเล็กและปัญญาที่คับแคบที่สุด แต่ก็ช่างมันเถอะ ให้เราคิดอะไรใหญ่ ๆ ตามศักยภาพของตัวเราเอง แม้จะถูกมองด้วยความไม่เข้าใจ มองด้วยมุมแคบ ๆ ด้วยคนที่สบประมาท ดูหมิ่นเหยียดหยาม ประณาม ต่าง ๆ นานา ก็ช่างมันเถอะ คนเราจะทำงานใหญ่ต้องใจใหญ่ ไม่ล้มเลิกง่าย ๆ ไม่สนใจคำพูดเล็ก ๆ ของคนจิตใจคับแคบ ไร้ปัญญาเหล่านั้น
7. ไม่ว่าจะเป็นเรื่องใดคนเรามักเลือกอยู่ฝั่งที่ชนะ หรือฝั่งชนะได้มาด้วยเหตุผลใดก็ตามและส่งผลเสียแก่ส่วนรวม ก็ให้ช่างมันเถอะ อย่าเสียเวลาไปก่นด่า แต่ให้เรายืดหยัดต่อสู้เพื่อความถูกต้อง ช่วยเหลือคนถูกเอารัดเอาเปรียบ ทำเพื่อคนที่ยึดมั่นในหลักการที่ถูกต้อง ทำให้เกิดผลประโยชน์อันดีงามแก่ส่วนรวม ทำเพื่อให้สังคมดีขึ้น
8. สิ่งที่เราสร้างสมมาเป็นปี ๆ อาจถูกทำลายหมดในชั่วข้ามคืน ก็ช่างมันเถอะ เช่น โปรเจคงานที่ตั้งใจคิดค้นและนำเสนอ แต่อาจมีโปรเจคอื่นดีกว่า ความรักที่เราหมั่นสร้างสมทำแต่ความดี ไม่เคยนอกใจ ซื่อสัตย์ อดทน แต่คนรักไม่เคยเห็นความตั้งใจของเรา กลับนอกใจเรา เป็นต้น ให้ช่างมันเถอะ เราได้ทำดีสุดความสามารถแล้ว เราอาจจะยังไม่ดีพอ หรือเราไม่ใช่เนื้อคู่กัน อย่างไรก็จะสร้างต่อไป พัฒนาต่อไปเรื่อย ๆ ก้าวข้ามต่อไป ไม่เลิกล้ม
9. ปกติคนเรามักช่วยคนที่มีคุณธรรม คนที่เห็นคุณค่าของการช่วยเหลือ แต่ถ้าช่วยแล้วกลับถูกโจมตีต่อว่า ก็ช่างมันเถอะ เพราะเรามีจิตเมตตาที่จะช่วย ก่อเกิดกุศลในใจของเราแล้ว เราไม่ได้ทำผิดอะไร ก็ช่วยต่อไปเถอะ ผลแห่งการช่วยเหลือของเราอาจไม่ส่งผลมาที่เราโดยตรงแต่อาจจะผลิดอกออกผลไปในวงกว้างที่เราไม่คาดคิด
10. เมื่อเราตั้งใจทุ่มเทให้โลกอย่างเต็มที่ มักอาจถูกเบรกความคิดดี ๆ ก็ช่างมันเถอะ เรารู้ตัวเราเองดี เราจะเป็นจุดเล็ก ๆ ในการเริ่มต้น ไม่ว่าจะเปลี่ยนโลกได้หรือไม่ แต่ความคิดดี ๆ ได้สะเทือนออกไปแล้ว เปรียบเสมือนคำพูดที่ว่า “เด็ดดอกไม้สะเทือนถึงดวงดาว” ความคิดดี ๆ ได้แผ่ขยายออกไปแล้ว เพราะความคิดดี ๆ ทำให้โลกน่าอยู่ยิ่งขึ้น
หากเราเจออะไรเลวร้าย ก็ช่างมันเถอะ
ขอขอบคุณข้อมูล : ณ หนวด
ขอขอบคุณรูปภาพ : ดวงดาว