คุณอยากได้เพื่อนดี ๆ หวังดีกับคุณ อยากได้หัวหน้าและเพื่อนร่วมงานดีๆ สิ่งแวดล้อมบรรยากาศดี ๆ ทำให้มีความสุข ได้รายได้ดี ๆ มีเงินเหลือใช้ มีสุขภาพเยี่ยม เป็นที่รักของทุกคน  คุณรู้มั๊ยว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณต้องการมันจะสำเร็จสมหวังได้ไม่ใช่ใครอื่นเลย ก็ด้วยตัวของคุณเองทำเองทั้งนั้น

"นกชนิดเดียวกัน จะอยู่ในฝูงเดียวกัน คนที่เคยมีบุพกรรมร่วมกัน จะถูกดึงดูดเข้ามาอยู่ใกล้กัน”

เราอยู่ในโลกของพลังงาน ทุกสิ่งทุกอย่างดูเหมือนสงบนิ่ง แต่แท้จริงแล้วมันกำลังสั่นสะเทือนอยู่ตลอดเวลา

หากส่องเข้าไปดูในระดับอะตอม นักวิทยาศาสตร์ได้พบความจริงข้อนี้ แล้วประกาศออกมาเป็นทฤษฎีควอนตัมฟิสิกส์ ซึ่งความจริงนั้น พระพุทธเจ้าทรงค้นพบเรื่องนี้มาเกือบสองพันหกร้อยกว่าปีแล้ว และตรัสไว้ผ่านทางหลักธรรมคำสอนด้วยพุทธพจน์ที่ว่า ทุกสรรพสิ่งไม่เที่ยง(อนิจจัง) ต้องเปลี่ยนแปลง(ทุกขัง) และไม่มีตัวตน(อนัตตา) สามสภาวะนี้เรียกรวมกันว่า “กฎไตรลักษณ์” กฎข้อนี้ในบางส่วน นักจิตวิทยาก็ค้นพบคำว่า “จิต”เป็นพลังงานชนิดหนึ่ง อยู่ในรูปของคลื่นความถี่ที่สั่นสะเทือนอยู่ตลอด ซึ่งมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า แต่รับรู้และใช้ประโยชน์จากมันได้ เช่น คลื่นโทรศัพท์ คลื่นวิทยุ คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า เป็นต้น

ชีวิตทางกายภาพของมนุษย์ประกอบด้วยส่วนต่าง ๆ 2ส่วน คือ

1. ส่วนที่เป็นกายภาพ สามารถสัมผัสจับต้องได้ มองเห็นได้ เรียกว่า “กายเนื้อ” ภาษาธรรมะเรียกว่า “รูป”

2. ส่วนที่เป็นพลังงาน สัมผัสถูกต้องไม่ได้ เรียกว่า “กายใน” เป็นพลังงานเรืองแสง มองด้วยตาเปล่าไม่เห็น กายในดังกล่าวนี้จะแทรกอยู่ในกายเนื้อ คนโบราณเรียกว่า “กายทิพย์” ทางพระเรียกว่า “นาม” ซึ่งพระพุทธเจ้าทรงอธิบายละเอียดลึกซึ้งลงไปอีกว่า นามนั้นประกอบด้วย ความรู้สึก(เวทนา), ความจำ(สัญญา), ความคิด(สังขาร) และการรับรู้(วิญญาณ)

ข้อดีของสัจธรรมก็คือ เป็นกฎของธรรมชาติที่ให้ผลเป็นจริงอยู่เหนือกาลเวลา และนำมาปรับใช้ได้กับทุกยุคทุกสมัย

คุณเคยสงสัยไหมว่า ทำไมในชีวิตประจำวันของคุณต้องมาพบ มาทำงานร่วมกับคนที่คุณก็ไม่ได้ชอบหน้าเขาสักเท่าไหร่ ซึ่งอาจเป็น เจ้านาย ลูกน้อง เพื่อนร่วมงาน หรือใครก็ตาม  นั่นก็เพราะคุณมี “กายภายใน” ที่เป็นพลังงานสั่นสะเทือนอยู่ในระดับเดียวกับเขา

“คนที่มีระดับพลังงานเดียวกันจะถูกดึงดูดเข้ามาหากัน” เหมือนนกที่มีสายพันธุ์เดียวกัน ก็จะอยู่ในฝูงเดียวกัน บินไปไหนพวกมันก็ไปด้วยกัน บินกันไปเป็นฝูง เราจะไม่เคยเห็นอีกาบินร่วมไปกับหงส์ หรืออีแร้งบินไปกับนกอินทรี นั่นเพราะนกชนิดเดียวกันมันจะอยู่ในฝูงเดียวกันเท่านั้น ตราบใดที่พลังงานในตัวคุณยังไม่เปลี่ยนระดับความถี่ที่สั่นสะเทือนคุณก็จะต้องพบเจอบุคคลเหล่านี้อยู่ร่ำไป

วิธีการสลัดตนให้ "หลุดพ้น" จากคนที่คุณไม่ชอบนั้น ไม่ใช่การนินทา และก็ไม่ใช่การพยายามเปลี่ยนคนอื่น แต่คุณจะต้องเปลี่ยนตัวคุณเองจากภายใน คือ “ระดับพลังงาน” ต้องยกมันให้อยู่ในระดับที่สูงขึ้นไป เหนือกว่าพลังงานของคนที่คุณไม่ชอบ โดยเริ่มจากความอยากเปลี่ยนแปลงตัวเอง "ไปในทางที่ดี"  

ตรวจสอบได้โดย คุณรู้จักฝึกควบคุมอารมณ์ให้เป็นคนที่รู้สึกดีได้มากที่สุด ยิ้มแย้มแจ่มใส จิตใจเมตตา ไม่จับกลุ่มนินทา เลิกเสพข่าวร้าย มีความสำนึกรู้คุณต่อทุกสรรพสิ่ง ไปวัด นั่งสมาธิ รักษาศีล ออกกำลังกายอยู่เสมอ ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ นักจิตวิทยาสมัยใหม่บอกว่า เกิดขึ้นเพราะ “พลังจิตใต้สำนึก” ปลดปล่อยพลังงานสั่นสะเทือนออกไปโดยอัตโนมัติอยู่ตลอดเวลาแบบที่คุณเองก็ไม่รู้ตัว พวกเขาเรียกมันว่า “กฎแห่งแรงดึงดูด”

หากคุณอยากเปลี่ยนสิ่งแวดล้อม เปลี่ยนโลกให้เป็นอย่างฝัน ต้องเริ่มต้นเปลี่ยนแปลงตัวคุณเองก่อน ด้วยการทำตามคำสอนเปลี่ยนโลกที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ คือ การไม่ทำบาปทั้งปวง(มีศีล) การทำกุศลให้ถึงพร้อม(การให้) การทำจิตของตนให้ผ่องแผ้ว(ฝึกสมาธิจนเกิดปัญญา)

         ทาน .. บอกระดับความมีใจโอบอ้อมอารี

         ศีล .. บอกพฤติกรรม กิริยา ท่าทางที่แสดงออก

         สมาธิ .. บอกระดับความสุขสงบเย็น

         ปัญญา .. บอกระดับความรู้ ความเข้าใจต่อโลก และสรรพสิ่ง

“คนที่เสมอกัน จะถูกดึงดูดเข้ามาอยู่ใกล้กัน” ตามระดับคุณธรรม ที่เป็นพลังงานสั่นสะเทือนอยู่ตลอดเวลา

ฉะนั้น อยากได้บรรยากาศแบบไหน อยากมีเพื่อนแบบไหน ต้องการอะไร ทุกอย่างล้วนได้ด้วยตัวของคุณเอง คุณเป็นผู้สร้างสิ่งเหล่านั้นด้วยคุณธรรมในตัวของคุณเองทั้งนั้น

ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ: จิตวิญญาณแสงแห่งธรรม